The Power to Save Lives Lifestyle ใส่เลนส์เสริม คืออะไร 

ใส่เลนส์เสริม คืออะไร 


ใส่เลนส์เสริม

ต้องบอกเลยว่าหลายๆ คนนั้นเกิดคำถามมากมายหากว่าตนเองนั้นตกลงใจจะผ่าตัดและใส่เลนส์เสริม โดยการผ่าตัดและใส่เลนส์เพิ่มนั้นจะช่วยในการแก้ปัญหาทางสายตาได้หลายต่อหลายรูปแบบเลยทีเดียว โดยจะมีการแก้ปัญหาสายตาได้ทั้งยาว สั้นและเอียง โดยสิ่งที่หลายๆคนสงสัยและเราจะพาไปดูพร้อมๆ กันเลย 

1.เลนส์เสริมและเลสิก 

สำหรับคำถามแรกที่หลายคนอาจจะไม่รู้มาก่อนก็คือเลนส์เสริมกับเลสิกนั้นมีความเหมือนและความต่างกัน โดยสำหรับการใช้เลนส์เสริมที่มีความปลอดภัยแล้วล่ะก็ จะทำให้การใส่เข้าไปในบริเวณหลังกระจกตานั้นไม่ใช่เรื่องยาก และจักษุแพทย์ก็จะเป็นคนที่เอามาทำให้เราอีกด้วย ที่สำคัญยังไม่ทำให้เนื้อเยื่อดวงตาเสียไป ในขณะที่การเลสิกนั้นเป็นการแก้ปัญหาด้วยการใช้เลเซอร์ จะมีการปรับกระจกตา และกระจกตาก็จะบางลง ทำให้บางคนอาจจะทำเลสิกไม่ได้หากว่าเรากระจกตาไม่หนา 

2.การแก้ความผิดปกติของสายตาด้วยการใส่เลนส์เสริม 

อีกหนึ่งสิ่งที่บางคนอาจจะไม่รู้มาก่อนก็คือการใส่เลนส์เสริม นั้นจะมีการแก้ความผิดปกติของสายตา โดยแก้ปัญหาสายตาได้ตั้งแต่ 50-180 และหากว่าสายตาเอียงก็จะแก้ได้ตั้งแต่ 0.25  ไปจนถึง 6.00 แต่การที่เราจะใส่เลนส์แบบเสริม อาจจะทำให้ดวงตาแห้งหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยของการทำลายเส้นประสาทของผิวกระจกตาอีกด้วย โดยจะมีหน้าที่ในการกระตุ้นน้ำตา ทำให้ตาไม่แห้งอีกด้วยนั่นเอง ในกรณีที่สายตาไม่ได้สั้นมาก ก็ไม่จำเป็นต้องผ่าตัดหรือว่าใส่เลนส์แบบเสริม  

3.การปฏิบัติตัวหลังจากผ่าตัด 

สำหรับการผ่าตัดเพื่อใส่เลนส์แบบเสริม สิ่งที่จำเป็นมากที่สุดก็คือ การปฏิบัติตัวหลังจากที่ผ่าตัด โดยหากว่าหลังจากที่ผ่าตัดมาได้ประมาณ 1เดือนแล้วหากตาของเรานั้นไม่แห้งก็ใส่คอนแทคเลนส์แบบสีๆ ได้เช่นกัน บางคนที่กลัวว่าการใส่เลนส์แบบเสริมจะเจ็บ ขอแนะนำเลยว่าการผ่าตัดใส่เลนส์แบบเสริม จะมีการใช้ยาชาและมีการฉีด และไม่ทำให้เกิดอาการบาดเจ็บตอนที่เราทำ และไม่มีความรู้สึกเจ็บๆ ขณะที่ระหว่างทำ คนป่วยก็จะพูดกับแพทย์ได้ตลอดเวลาอีกด้วย 

จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่าการผ่าตัดสำหรับใส่เลนส์รักษาดวงตาก็จะต้องอาศัยเทคนิคชนิดต่างๆ สำหรับการผ่าตัดได้เป็นอย่างดีเลยก็ว่าได้ โดยเรายังไม่นับรวมไปถึงการผ่าตัด และการคัดเลือกแพทย์ที่จะผ่าตัดของเรา รวมไปถึงการผ่าตัดสำหรับใส่เลนส์ ที่แท้จริงแล้วเราต้องดูว่าเรามีงบประมาณมากหรือน้อยแค่ไหน หากว่ามีงบประมาณมากพอก็ให้ติดต่อไปที่คลีนิกหรือสถานพยาบาล ในขณะที่หากว่างบไม่มากสักเท่าใดนัก ก็ให้ติดต่อโรงพยาบาลรัฐจะดีกว่า