The Power to Save Lives Lifestyle รวมเทคนิคเคล็ดไม่ลับกับวิธีกำจัดกลิ่นในรถยนต์

รวมเทคนิคเคล็ดไม่ลับกับวิธีกำจัดกลิ่นในรถยนต์


ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1

บทความนี้เรามีเทคนิคเคล็ดไม่ลับกับวิธีกำจัดกลิ่นในรถยนต์มาฝาก ซึ่งเทคนิคเคล็ดไม่ลับกับวิธีกำจัดกลิ่นในรถยนต์ที่เรานำมาฝากกันในบทความนี้ จะมีเทคนิคใดที่น่าสนใจบ้างนั้น ต้องตามมาดูพร้อมๆ กันเลย

รวมเทคนิคเคล็ดไม่ลับกับวิธีกำจัดกลิ่นในรถยนต์

  • เทคนิคเคล็ดไม่ลับกับวิธีกำจัดกลิ่นในรถยนต์ คือ กำจัดกลิ่นจากแหล่งกำเนิด มาถึงข้อแรกที่ดูเหมือนจะธรรมดาแต่ที่จริงแล้วเป็นข้อที่คนส่วนใหญ่มักจะมองข้ามไป หากในรถของคุณยังเป็นแหล่งสะสมของบรรดาขยะที่ไม่จำเป็น เช่น ถุงข้าว เศษอาหารต่าง ๆ ที่หมักหมม ซึ่งจุดนี้ก็เป็นสาเหตุหลัก ๆ เลยที่ทำให้เกิดการสะสมของกลิ่นเหม็นอับภายในรถ อย่างไรก็ตามควรตรวจเช็กให้เรียบร้อยทุก ๆ จุดและเก็บกวาดให้สะอาด เพื่อไม่ให้เกิดการอุดตันในท่อระบายน้ำหรือตัวกรองเครื่องปรับอากาศของรถยนต์ได้ ซึ่งการทำความสะอาดในส่วนนี้ก็สามารถลดกลิ่นอับในรถลงไปได้มากกว่า 50 % ไปแล้วค่ะ
  • เทคนิคเคล็ดไม่ลับกับวิธีกำจัดกลิ่นในรถยนต์ คือ การดูดฝุ่นทำความสะอาดห้องโดยสาร การหมักหมมของความชื้นและสิ่งสกปรกในรถก็เป็นอีกปัจจัยของการทำให้รถยนต์มีกลิ่นเหม็น การทำความสะอาดหรือดูดฝุ่นจึงเป็นวิธีการทำความสะอาดที่สำคัญและช่วยขจัดกลิ่นได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามหากจะทำความสะอาดก็ควรที่จะใช้น้ำยาฆ่าเชื้อร่วมด้วย เช่นการเช็ดบนคอนโซล เบาะรถ พวงมาลัยและอื่น ๆ ซึ่งก็ควรทำไปพร้อม ๆ กับการดูดฝุ่นตามซอกมุมต่าง ๆ ที่เข้าถึงยาก เพราะเชื้อแบคทีเรียก็เป็นสาเหตุของกลิ่นอับด้วยเช่นกัน
  • เทคนิคเคล็ดไม่ลับกับวิธีกำจัดกลิ่นในรถยนต์ คือ นำรถยนต์ไปตากแดดกลางแจ้ง อย่างที่หลาย ๆ คนทราบกันดีอยู่แล้วว่า ประโยชน์ของแสงแดดนั้นสามารถช่วยฆ่าเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี เราสามารถนำรถไปฆ่าเชื้อโรคได้แบบอย่างง่าย ๆ คือการนำรถยนต์ไปจอดได้กลางแดดแล้วเปิดประตูระบาย เพื่อให้มีลมระบายได้ดี เท่านี้กลิ่นอับในห้องโดยสารก็จะลดลงได้ค่ะ แต่ข้อควรระวังก็คือรถยนต์ที่มีเบาะหนังไม่ควรจะจอดกลางแดดนานเกินไป เพราะอาจจะทำให้เบาะหนังนั้นเสื่อมสภาพได้เร็ว

อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือ การทำประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1เอาไว้ เพราะไม่ว่ารถคุณจะเหม็นอับ เกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันใดๆ ขึ้นมา การมีประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1เอาไว้ก็อุ่นใจอยู่ไม่น้อยเลยล่ะ ที่สำคัญ ประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1 ในทุกวันนี้ ก็มีราคาที่ไม่แพงแล้วด้วย ฉะนั้น หากต้องเลือกซื้ออะไร ก็วื้อประกันภัยรถยนต์ ชั้น 1ไว้จะดีที่สุด