เคล็ดไม่ลับสุขภาพดีด้วยการกินที่เหมาะสม

หากคุณกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพอยู่แล้วหล่ะก็ ลองเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินดูสิครับ สุขภาพของท่านจะดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อโดยอาจไม่ต้องพึ่งมือหมอกันเลย แต่การกินอาหารที่ถูกต้องถูกวิธีนั้นจะเป็นอย่างไร? ต้องปฏิบัติแบบไหน? กินอะไรดีหรือไม่ดี? ในบทความนี้จะพาทุกๆ ท่านมาพบกับ “เคล็ดไม่ลับ สุขภาพดีด้วยการกินที่เหมาะสม” ที่จะเป็นความรู้และบอกถึงวิธีการกินที่ดีให้กับทุกๆ ท่านได้ทราบกันครับ

อาหารแบ่งออกเป็นกี่ประเภท?

ประเภทของอาหารโดยหลักทั่วไปแล้วถูกแบ่งออกเป็น 5 หมู่หลักๆ ซึ่งได้แก่
อาหารหมู่ที่ 1 โปรตีน ยกตตัวอย่างเช่น เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อปลา นม ไข่ ถั่วเมล็ดแห้ง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วลิสง เป็นต้น
อาหารหมู่ที่ 2 คาร์โบไฮเดรต ยกตตัวอย่างเช่น มันเทศ ควินัว ข้าวกล้อง ข้าว แป้ง เผือกมัน น้ำตาล เป็นต้น
อาหารหมู่ที่ 3 เกลือแร่และแร่ธาตุ ยกตตัวอย่างเช่น ฟักทอง มันเทศสีเหลือง ถั่วฝักยาว ผักบุ้ง ตำลึง แครอท คะน้า เป็นต้น
อาหารหมู่ที่ 4 วิตามิน ยกตตัวอย่างเช่น ผัก ผลไม้ ส้มโอ ลูกพีช องุ่น เสาวรส มะละกอ กล้วย แอปเปิ้ล เป็นต้น
อาหารหมู่ที่ 5 ไขมัน ยกตัวอย่างเช่น ครีม เนย ชีส น้ำมันปาล์ม น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันงา น้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น

ซึ่งอาหารทั้ง 5 หมู่นี้ ล้วนแล้วจำเป็นต่อระบบร่างกายของเราทั้งสิ้น ซึ่งในแต่ละส่วนจะมีหน้าที่แตกต่างกันไปดังนี้
– โปรตีน มีความจำเป็นต่อร่างกายในเรื่องของการช่วยการเจริญเติบโต สร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ
– คาร์โบไฮเดรต เป็นส่วนที่คอยให้พลังงานแก่ร่างกาย สามารถดูดซึมได้ง่าย
– เกลือแร่และแร่ธาตุ ใช้เป็นแหล่งแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
– วิตามิน เป็นอาหารส่วนที่ช่วยในเรื่องของระบบการเรียนรู้ ระบบประสาท ป้องกันโรคภัยต่างๆ
– ไขมัน เป็นทั้งแหล่งพลังงานหลักและช่วยให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย
ดังนั้นแล้ว การกินหรือบริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ จึงเป็นเรื่องสำคัญและไม่ควรมองข้ามนั้นเอง

วิธีกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีมีอะไรบ้าง?

นอกจากการกินอาหารให้ครบ 5 หมู่และ 3 มื้อในแต่ละวันแล้ว ยังมีกลเม็ดเคล็ดไม่ลับสำหรับการกินอาหารที่เหมาะสมให้กับทุกๆ ท่านได้นำไปปฏิบัติตามดังนี้
1.รับประทานอาหารมื้อเช้าทุกวันและทำมื้อกลางวันของคุณให้เป็นมื้อที่หนักที่สุด เพื่อให้ร่างกายรับสารอาหารที่เพียงพอตลอดทั้งวัน
2.ดื่มน้ำเปล่าระหว่างวันให้ได้ 1.5 – 2 ลิตรต่อวัน เพื่อเติบเต็มความชุ่มชื้นให้กับส่วนต่างๆ ของร่างกาย
3.รับประทานอาหารมื้อเย็นให้น้อยที่สุด เมื่อเทียบกับมื้อเช้าและมื้อเที่ยง
4.เลือกรับประทานผักและผลไม้ให้มากขึ้น เพื่อช่วยในเรื่องของการขับถ่าย
5.ระหว่างรับประทานอาหารควรเคี้ยวให้ละเอียดเพื่อลดการทำงานหนักบริเวณกระเพาะอาหาร
6.เลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ มีโซเดียมน้อยและไม่หวานจนเกินไป เพื่อลดอัตราเสี่ยงต่อโรคต่างๆ
7.ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง เพราะอาจเป็นสาเหตุของไขมันสะสมหรือเส้นเลือดอุดตันได้
8.ไม่ควรรับประทานอาหารที่มีรสจัดติดต่อกัน เนื่องจากอาจทำให้เกิดอาการอาหารไม่ย่อย ส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวได้อีกด้วย

การรับประทานอาหารคลีนดีอย่างไร?

การรับประทานหรือกินอาหารคลีน คือ การกินอาหารที่ลดกระบวนการประกอบอาหารต่างๆ ให้น้อยที่สุด รสชาติธรรมชาติ ไม่เค็ม ไม่เปรี้ยวหรือไม่หวานจนเกินไป จึงทำให้ส่งผลดีต่อสุขภาพและร่างกายของผู้บริโภค โดยส่วนใหญ่อาหารคลีนมักจะถูกประกอบอาหารด้วยการหุ่ง, อบ, นึ่งหรือต้ม เพื่อให้อาหารสุก สามารถรับประทานได้นั้นเอง โดยการกินอาหารคลีนจะสามารถช่วยให้ผู้บริโภคมีน้ำหนักที่เหมาะสม หุ่นเฟิร์มไม่อ้วน แถมยังปราศจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้อีกด้วย

นอกจากการกินอาหารที่เหมาะสมตามวิธีต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว การออกกำลังกายควบคู่กับการกินก็จะช่วยให้สุขภาพร่างกายของคุณแข็งแรงและดูอ่อนเยาว์ได้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้เราหวังว่าบทความข้างต้นนี้จะเป็นประโยชน์แก่ท่านนักอ่านที่กำลังแสวงหาเกล็ดความรู้ ไม่มากก็น้อยครับ